China 5.0 – อาร์ม ตั้งนิรันดร: แนะนำหนังสือ

China 5.0 - อาร์ม ตั้งนิรันดร

แนะนำหนังสือ: China 5.0

หนังสือ China 5.0: สีจิ้นผิง เศรษฐกิจยุคใหม่และแผนการใหญ่ AI เขียนโดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร (ผมขออนุญาตเรียกต่อไปว่า “อาจารย์อาร์ม” หรือ “ผู้เขียน”) หนึ่งในผู้ที่เชี่ยวชาญและมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องราวของประเทศจีนเป็นอย่างดี

หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ คือ (ก) เรื่องของการเมืองซึ่งเขียนปูเรื่องราวเกี่ยวกับสีจิ้นผิง (ข) เรื่องของเศรษฐกิจ และ (ค) เรื่องของแผนพัฒนาเกี่ยวกับ AI (Artificial Intelligence) ซึ่งแต่ละบทมีความสอดคล้องกันเพื่อแสดงให้เห็นพัฒนาการของจีนในอดีตจนถึงปัจจุบันทั้งในส่วนของการเมืองและเศรษฐกิจ รวมไปถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่จีนจะต้องวางแผนพัฒนาไปสู่อนาคตข้างหน้า

เพราะโลกยุคใหม่ไม่ใช่โลกของอังกฤษ สหรัฐฯ หรือเยอรมนี แต่เป็น “โลกของจีน” โลกที่ “จีน” เป็นวิชาบังคับ ไม่ใช่วิชาเลือกอีกต่อไป1

บทที่ 1: การเมือง ◊◊ ถึงเวลาของผู้นำรุ่นที่ 5

บทแรกนั้น อาจารย์อาร์มได้อรรถาธิบายเกี่ยวกับประวัติของสีจิ้นผิงและบทบาทของเขาในด้านการเมือง โดยเฉพาะการปรับปรุงพรรคคอมมิวนิสต์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และบุคลิกลักษณะของสีจิ้นผิงที่มักจะคิดและลงมือทำแบบ “Big Idea” อันเป็นคำที่อาจารย์อาร์มใช้กับคนกล้าคิดการใหญ่ที่จะผ่าตัดประเทศเพื่อสร้างการเติบโตระลอกใหม่ (ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักจะแนะนำหรือใช้นโยบายแบบผิวเผินหรือทำให้ดูดีเล็กน้อยในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ)

ในบทนี้ ผู้เขียนได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางต่าง ๆ ที่รัฐบาลจีนปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันเพื่อสร้างกระแสนิยมและความนิยมของประชาชนให้สูงขึ้น และมุมมองของชาวจีนที่มีต่อรัฐบาลจีนและนโยบายต่าง ๆ ที่ออกมา โดยผู้เขียนได้ยกตัวอย่างของเพื่อนชาวจีนซึ่งมีความเห็นแตกต่างหลากหลาย ทั้งผู้ที่ไม่สนใจ ผู้ที่ตั้งข้อสงสัย และผู้ที่ชื่นชมรับได้

บทที่ 2: เศรษฐกิจ ◊◊ ปฏิรูปแบบสีจิ้นผิง

ความอัศจรรย์ของประเทศจีนในด้านเศรษฐกิจนั้นมีสูงมาก จีนเป็นประเทศที่ใช้ระยะเวลาเพียง 12 ปีในการทำให้ตัวเลข GDP ต่อหัวของประชากรเพิ่มขึ้น 2 เท่า! และใช้เวลาประมาณ 40 กว่าปีนับแต่การเดินหน้าขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ยุคเติ้งเสี่ยวผิงมาสู่การเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจ (GDP) ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งนักวิชาของจีนได้ให้คำอธิบายว่าเป็นผลมาจากการที่จีนเป็นนักปฏิบัติ การไม่มีกลุ่มผลประโยชน์ขัดขวางในช่วงแรก และการกระจายอำนาจทางการคลังให้ท้องถิ่น2

ผู้เขียนได้แสดงให้เห็นถึงลักษณะพิเศษของความทันสมัยในด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจของจีน คือ การที่เติ้งเสี่ยวผิงเลือกใช้ระบบตลาดและเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจจีนเป็นสำคัญ หากแต่ทำการตัดทิ้งแนวคิดเรื่องประชาธิปไตย และหันมาใช้เครื่องมืออื่นในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจที่มีพรรคคอมมิวนิสต์ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบธรรมาภิบาล ระบบกฎหมาย หรือระบบจัดการภายในพรรคและรัฐที่เหมาะสม

ระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันของจีนจึงเป็นระบบแบบตลาด (ที่มีรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์กำกับดูแลอย่างหนัก) โดยอาจารย์อาร์มได้แสดงให้เห็นลำดับภาพว่า ในสมัยก่อนนั้นเศรษฐกิจจีนให้ความสำคัญกับอุปสงค์ (demand) หากแต่ในปัจจุบันสีจิ้นผิงได้หันมาให้ความสำคัญกับแนวคิดแบบ เศรษฐศาสตร์อุปทาน (supply-side economics) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาจากในอดีตที่มุ่งเน้นการสร้างอุปสงค์มากไป ทำให้ในปัจจุบันจีนต้องหันกลับมาแก้ไขปัญหาการผลิตและอสังหาริมทรัพย์ส่วนเกิน การปรับลดบทบาทของรัฐวิสาหกิจลง และการส่งเสริมเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมก้าวหน้าสมัยใหม่ (New Economy) แทน3

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า คำอธิบายเกี่ยวกับแนวทางในการสร้างสมดุลระหว่างบริษัทเอกชนกับรัฐวิสาหกิจของจีนในหนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ประเทศจีนมีแนวทางในการกำกับ ดูแล และบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจที่ชาญฉลาด โดยทำการศึกษาย้อนมองประวัติศาสตร์การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของนานาประเทศ แล้วนำมาสร้างรูปแบบเฉพาะของตนขึ้นมา และแม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังค้นหาวิธีในการปรับปรุงละสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและแก้ไขปฏิรูปรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในอนาคต

บทที่ 3: เทคโนโลยี ◊◊ แผนการใหญ่ AI และเทรนด์ใหม่

ทางการจีนประกาศว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI ในปี 2030 (อีก 12 ปีข้างหน้า) โดยตัวอย่างของพวก AI ที่จีนต้องการจะเป็นผู้นำก็เช่น รถยนต์ไร้คนขับ (driverless cars) หรือในธุรกิจต่าง ๆ ที่พยายามจะลดการใช้พนักงานในการขับเคลื่อนระบบ แล้วหันมาใช้ระบบประมวลผลในการนำเสนอสินค้าและบริหารให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแทน เช่น Alibaba ใช้ระบบข้อมูลพฤติกรรมซื้อขายในอดีตของลูกค้ามาเฟ้นหาโฆษณาหรือเสนอบริการที่น่าจะเพิ่มยอดขายให้บริษัทได้4

นอกจากนี้ จีนยังถือว่าแผนผู้นำด้าน AI เป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินอนาคตของจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง เพราะสิ่งที่สำคัญภายใต้ระบบ AI คือ ข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) ซึ่งรัฐบาลจีนสามารถนำมาใช้ในการรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งในทางเศรษฐกิจและสังคมได้5 อีกทั้งบริษัทเอกชนต่าง ๆ ในจีนนั้นก็ยังขานรับแผนที่ว่านี้ด้วย เช่น Baidu Alibaba Tencent

ผู้เขียนยังได้ยกตัวอย่างการเฟื่องฟูของ Startup เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจสมัยใหม่ในจีน โดยจีนนั้นมีความครบถ้วนขององค์ประกอบหลายด้าน ทั้งจำนวนประชากรที่เป็นผู้บริโภค จำนวนบัณฑิตที่เข้ามารองรับความต้องการการจ้างงาน รวมไปถึงเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นเสมือนดั่ง Silicon Valley อย่าง ปักกิ่ง (Beijing) หางโจว (Hangzhou) และเสิ่นเจิ้น (Shenzhen)

การเติบโตของ Startup ทั้งหลายยังได้แรงหนุนจากพฤติกรรมคนจีนที่สอดรับกับนวัตกรรมสมัยใหม่ เช่น คนจีนส่วนมากนิยมจ่ายเงินผ่าน QR Code จนแทบจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสด หรือการที่คนจีนให้ความสนใจกับรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปันหรือการแชร์ (sharing economy) อย่างการใช้บริการ Ofo บริษัทแชร์จักรยาน หรือบริษัท Molisan ที่มาพร้อมกับไอเดียการแชร์ร่ม

หากแต่รูปแบบเศรษฐกิจการแชร์ของจีนนั้นกลับมีลักษณะเป็นการปล่อยเช่าจากนายทุน มากกว่าที่จะแชร์จากประชาชนด้วยกัน หรือพูดอีกแบบก็คือ คนจีนทั่วไปไม่มีโอกาสได้รับรายได้ส่วนแบ่งจากเศรษฐกิจการแชร์ เหมือนอย่างที่คนในประเทศอื่น ๆ ทำได้ในธุรกิจรูปแบบนี้อย่าง Uber Airbnb6 ที่ประชาชนคนทั่วไปสามารถนำรถยนต์หรือที่พักของตนมาหารายได้ผ่านแอพเหล่านี้

สรุปรวบยอด

หนังสือ China 5.0 เป็นหนังสือที่ได้อธิบายเรื่องราวของจีนในแง่มุม 3 ด้านสำคัญคือ เส้นทางการเมืองของสีจิ้นผิง เส้นทางเศรษฐกิจของจีน และภาพในอนาคตที่ได้ถูกวางแผนไว้ ผู้อ่านจะได้พบเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับประเทศจีนและคนจีนในหนังสือเล่มนี้ ที่ตัวผู้เขียนคืออาจารย์อาร์มได้เลือกประเด็นสำคัญ ๆ มาแสดงให้เห็น ข้อเด่นของหนังสือคือผู้เขียนเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญและเข้าใจวัฒนธรรมความคิดของคนในสังคมจีนเป็นอย่างดี จึงสามารถสอดแทรกคำอธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุใดฝ่ายปกครองและประชาชนจีนถึงคิดแบบนั้นแบบนี้

แม้หนังสือเล่มนี้จะไม่ได้อธิบายเรื่องเชิงลึกมากในทุกประเด็น ไม่ได้เน้นประวัติศาสตร์หรือรากฐานความคิดความเชื่อของจีนแบบในหนังสือเล่มอื่น หากแต่เป็นหนังสือที่มีข้อมูลที่เกิดขึ้นในปัจจุบันแท้ ๆ แง่มุมที่น่าสนใจทันสมัยและคือสภาพของสังคมจีนในตอนนี้ และภาพที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

หนังสือของอาจารย์อาร์มเล่มนี้จึงเหมาะอย่างมากกับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจจีนสมัยใหม่ และความเพลิดเพลินเพิ่มเติมจากการอธิบายความเป็นมาในอดีตอย่างกระชับ และความแปลกใจปนตื่นเต้นที่ได้เห็นแผนการในอนาคตที่แดนมังกรกำลังวางไว้เพื่อการก้าวสู่ความเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกในยุคถัดไป

และแม้ผู้ที่คิดว่าอยากอ่านเพื่อเสริมความรู้เกี่ยวกับประเทศจีน โดยเฉพาะจีนในยุคปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียวครับ

  1. อาร์ม ตั้งนิรันดร, China 5.0: สีจิ้นผิง เศรษฐกิจยุคใหม่ และแผนการใหญ่ AI (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ bookscape, 2561), 16.
  2. ibid., 69.
  3. ibid., 81-82.
  4. ibid., 138.
  5. ibid., 141.
  6. ibid., 169-170.

Comments