อ่านข่าวภาษาอังกฤษ : วิธีฝึกและพัฒนา

อ่านข่าวภาษาอังกฤษ

อ่านข่าวภาษาอังกฤษ บ่อย ๆ จะทำให้เราจะได้ประโยชน์มากมายหลายประการ เพราะว่า การอ่านข่าวภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะจาก “หนังสือพิมพ์” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้อย่างหนึ่งที่จะทำให้เราเก่งอังกฤษขึ้นได้อย่างมาก เพราะหนังสือพิมพ์เป็นที่ ๆ รวมข้อดีหลายอย่างมากในการฝึกฝนภาษาอังกฤษ  เช่น

1. หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่แม่นไวยากรณ์ (grammar)

ยกตัวอย่างเรื่องของ tenses หนังสือพิมพ์จะต้องใช้ประโยคที่บอกให้รู้ชัดเจนว่า ข่าวที่เขาเขียนหรือรายงานให้เรารู้เนี่ย เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว หรือเกิดขึ้นมาและยังคงเกิดอยู่ หรือกำลังจะเกิดต่อไปในอนาคต การอ่านหนังสือพิมพ์จึงเป็นการเรียนไวยากรณ์แบบทางลัด เราจะได้ทักษะความเข้าใจในไวยากรณ์ของภาษาบางอย่างมาโดยธรรมชาติ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการเรียนไวยากรณ์แบบที่ควรจะเป็น ลองนึกภาพสมัยเด็ก เราก็เรียนรู้ไวยากรณ์แบบธรรมชาติผ่านการอ่านภาษาไทย แม้เราจะไม่รู้ว่านี่เป็นไวยากรณ์อะไร แต่มันจะกระตุกในหัวว่าปกติมันไม่ได้เขียนแบบนี้นี่

2. หนังสือพิมพ์อุดมไปด้วย “ตัวอย่างการใช้” ประโยคหรือสำนวนทางภาษา

สำนวนภาษาหรือตัวอย่างการเขียนในหนังสือพิมพ์เป็นตัวอย่างที่นำไปใช้ได้จริง ซึ่งเราสามารถนำไปใช้ในการเป็นตัวอย่างสำหรับฝึกเขียน ฝึกพูดได้ อีกทั้งเรื่องราวที่เป็นข่าวยังสดใหม่ ทันเหตุการณ์ เราจะได้แหล่งข้อมูลในการฝึกพูด ฝึกเขียน หรือนำไปใช้ในการสอบ รวมถึงพูดคุยในชีวิตประจำวันด้วย

3. หนังสือพิมพ์คือ ฐานความคิดของชนชาติ นั้น

นอกจากคุณจะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษแล้ว คุณยังจะได้เข้าใจความคิด แนวคิดของชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และภาษาที่เรากำลังอ่านในหนังสือพิมพ์จะสะท้อนความเป็นเจ้าของภาษานั้น ๆ อย่างแท้ทรู เอ้ย แท้จริง จะไม่ใช่การคิดเป็นไทยแล้วแต่งประโยคอังกฤษ สิ่งที่เราจะได้คือตัวอย่างประโยคของภาษานั้นที่ประเทศผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกิด (native speaker) เขาใช้จริง ๆ

อ่านข่าวภาษาอังกฤษ : แนวทาง

หากแต่หนังสือพิมพ์หรือสื่อที่ใกล้เคียงกันมันก็จะแตกต่างกันออกไป บางอันเขียนคลุมทุกเรื่อง บางอันเจาะเฉพาะเรื่อง เช่น การเงินธุรกิจ บันเทิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบางสื่อนั้นต้องเสียเงินก่อนถึงจะเข้าไปอ่านได้ โดยปกติจะใจดีให้เราอ่านก่อนประมาณ 10+ บทความต่อเดือนต่อสัปดาห์ ถ้าอยากอ่านมากกว่านั้นต้องจ่ายเงินเป็นค่าสมาชิก แล้วเราจะเลือกยังไงดี?

(1) หนังสือพิมพ์ไทยที่เป็นภาษาอังกฤษ หลัก ๆ ก็จะมีสองเจ้า คือ Bangkok Post กับ The Nation ข้อดีของหนังสือพิมพ์พวกนี้ คือ ข่าวส่วนใหญ่นั้นคือข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไทยแค่เขียนเป็นอังกฤษ เรายังพอถูไถเข้าใจได้ เราอาจจะเริ่มลองอ่านหนังสือพิมพ์พวกนี้ก่อน

พิเศษคือ Bangkok Post จะมี Bangkok Post Learning English ที่เขาจะเอาข่าวมาเขียนให้เราฝึกเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ฝึกทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์ในข่าว

(2) หนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ซึ่งถ้าเอาสองชาติหลัก ๆ ที่ใช้ภาษาอังกฤษก็คือ หนังสือพิมพ์ของประเทศอังกฤษ กับหนังสือพิมพ์ของสหรัฐอเมริกา โดยหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษนั้นจะแบ่งออกเป็น Broadsheet กับ Tabloid ถามว่าต่างกันยังไง อันแรกจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่เขียนแบบลงลึก เจาะประเด็นเช่นการเมือง ธุรกิจ และภาษาจะค่อนข้างเป็นทางการ ในขณะที่แทบลอยด์จะเป็นหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กลงมา หน้าที่ของมันคือรายงานข่าวสั้น กระชับ อ่านง่าย ภาษาไม่ต้องทางการมาก อาจจะหนักไปทางข่าวผู้มีชื่อเสียง (gossip)

UK : เราอาจจะตามข่าวจาก BBC อังกฤษซึ่งอ่านฟรี (ซึ่ง BBC จะมีการทำสื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษชื่อ BBC Learning English เป็นรายการสอนภาษาอังกฤษที่ดีมากกกก ไปตามกันได้) แต่เจ้าที่เป็นสื่อที่คนอังกฤษติดตามมากที่สุด คือ Daily Mail กับ The Mirror (เป็น tabloid ทั้งคู่) ส่วนพวกหนังสือพิมพ์แบบ broadsheet ได้แก่ The Guardian / Independent / The Times / The Telegraph / The Sun แล้วก็มีแบบสื่อเฉพาะด้าน เช่น Financial Times (เสียเงิน) ซึ่งเน้นธุรกิจและการเงิน โดยเราอาจจะเลือกอ่านนิตยสารเฉพาะด้านที่น่าสนใจอย่าง The Economist (เสียเงิน)

USA : จากการอ่านหลาย ๆ ความเห็น ดูว่า The New York Times จะเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับต้องอ่านสำหรับคนอเมริกัน (แต่เสียเงิน) ทว่าข้อดี คือ เขามี The New York Time : Learning Network อารมณ์เดียวกับ BBC Learning ซึ่งตรงนี้อ่านฟรี เขาจะเขียนข่าวโดยใช้ภาษาที่เหมาะกับคนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง ที่เหลือที่แนะนำกันก็จะมี USA Today (ใช้ภาษากระชับสุด เขียนครอบคลุมทุกเรื่อง) แล้วก็เจ้าดัง Wall Street Journal (ให้อ่านฟรีไม่กี่ข่าว ต้องเสียเงิน) แต่ถ้าจะเอาฟรี CNN ก็เป็นสื่อหลักประเทศเช่นกัน ตามอ่านข่าวในเพจเขาได้ นอกจากนี้ยังมีสื่อพวก Bloomberg (อ่านฟรี เนื้อหาหนักไปทางธุรกิจ) / Business Insider (ฟรี หนักไปทาง How-to) / VOA – Voice of America English เป็นสื่อทางอเมริกาที่อุทิศตัวกับการเป็นแหล่งฝึกฝนภาษาของผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองครับ

วิธีการติดตาม

ผมใช้วิธีไล่ Like ทุกเพจของสำนักข่าวพวกนี้แล้วกด See First ให้มันขึ้นโชว์ในนิวฟีดข่าวของเฟสบุ๊คส่วนตัวผมก่อน ทุกครั้งที่เปิดเฟสขึ้นมา ผมจะถูกแวดล้อมด้วยข่าวอังกฤษ ก็จะไล่อ่าน รวมถึง save ข่าวที่น่าสนใจไว้อ่านทีหลัง อันไหนชอบมากจะสั่งพิมพ์ออกมาอ่าน ขีดศัพท์ประโยคที่สนใจ จดประโยคที่อาจจะได้ใช้บ่อย ลองฝึกเขียน และมีคนแนะนำอย่างมากว่า ให้อ่านออกเสียง ระหว่างที่อ่านไปด้วย

ตัวผมเองก็ได้กดถูกใจติดตามเพจหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ต่าง ๆ ในเฟส แล้วก็กด See First ไว้ แต่ละวันทุกครั้งที่เข้า Facebook ตัวเอง ก็จะมีแต่ภาษาอังกฤษเต็มหน้านิวฟีด อ่านอย่างจุใจ แต่พอติดตามไปเรื่อย ๆ ผมก็จะลดบางเพจทิ้งไปไม่กดเห็นก่อนล่ะ อีกทั้งได้ไปทำการบ้านศึกษามาว่า แต่ละหนังสือพิมพ์ แต่ละนิตยสารมันแตกต่างอะไรยังไงกันบ้าง เนื่องด้วยผมเองเป็นนักลงทุนและชื่นชอบเรื่องการลงทุนเป็นหลัก เลยอาจจะตามพวกเพจที่เกี่ยวกับการเงินมากหน่อย แต่ก็พยายามจะติดตามข่าวสารที่เป็นภาษาอังกฤษอย่างอื่นด้วยแล้ว จะลองรีวิวให้อ่านกันครับ

(1) กลุ่มหนังสือพิมพ์ของอังกฤษ (UK)

อังกฤษจะมีหนังสือพิมพ์แบบ broadsheet กับ tabloid แบบแรกจะเขียนอย่างจริงจังกว่า มันจะมีเจ้าดังหลายฉบับ แต่เราจะตัดเจ้าที่ต้องเสียเงินเข้าอ่านออกไป ก็จะเหลือ 3 ฉบับให้ติดตามในเฟสบุ๊ค คือ The Telegraph อันนี้เป็นหนังสือพิมพ์เก่าแก่ อนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) คนอ่านส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนอายุ 40+ ส่วน The Guardian เป็นฝั่งซ้ายหัวก้าวหน้า แล้วก็เป็นหนังสือพิมพ์ที่กลุ่มคนอายุ 15-35 ปีของอังกฤษนิยมอ่านมากที่สุด และจะมี The Independent อันนี้ออกตัวว่าเป็นกลาง จะมีข่าวรอบโลกเยอะหน่อย หนังสือพิมพ์อังกฤษยังมี The Financial Times เป็นหนังสือพิมพ์เน้นการเงินและเศรษฐกิจที่มีคุณภาพสูงฉบับหนึ่งของโลกเทียบกับ WSJ ของอเมริกา (แต่จะเข้าอ่านต้องเสียเงินครับ) อนึ่ง ถ้าใครอยากอ่านพวก tabloid ดังสุดก็น่าจะ Daily Mirror 

(2) หนังสือพิมพ์ของอเมริกา (USA) : อเมริกามีหนังสือพิมพ์ทั้งประเทศประมาณเกือบสองพันเจ้า แต่เจ้าที่ทุกคนอ่านเหลือไม่กี่เจ้า คือ The Wall Street Journal (เน้นการเงิน) The New York Times (โชคร้ายที่สองเจ้านี้เสียเงิน) ก็จะเหลือเจ้าที่สามคือ USA Today เป็นหนังสือพิมพ์ข่าวสารทั่วไป เขียนทุกอย่าง ข่าวที่เขาแปะในเฟสบุ๊คจะอ่านฟรี แนะนำให้ตามเจ้านี้คู่กับของอังกฤษสักฉบับ แต่จริง ๆ มีอีกเจ้าที่ดัง คือ Washington Post อ่านฟรีได้บางข่าว (ซึ่งก็เยอะอยู่) แต่มันจะหนักการเมืองหน่อย ๆ

(3) นิตยสารหรือสื่อที่มีคุณภาพมาก ได้แก่

  • The Economist (เสียเงิน) เน้นเศรษฐกิจ การเมืองบ้าง เขียนอะไรล้ำ ๆ บ้าง เป็นนิตยสารของอังกฤษ (บิลเกตส์อ่านทุก cover ครับ) แต่ถ้าจะอ่านต้องสมัครสมาชิก เพราะมันให้อ่านฟรีไม่กี่บทความ
  • TIME อันนี้ก็ดัง เขียนทุกเรื่อง เป็นเรื่องทั่วไป หลากหลาย งานเขียนดี ค่อนข้างมีคุณภาพ เพจเขาเราติดตามได้ อ่านฟรีอยู่สำหรับบทความที่ทางเพจ TIME แปะไว้หน้าวอลล์
  • Forbes นิตยสารคุณภาพเจ้าหนึ่งในวงการธุรกิจ (อ่านไม่ได้ทุกบทความ)
  • Fortune ตัวนิตยสารมีคุณภาพ เกี่ยวกับบริษัทขนาดใหญ่ ทางเพจชอบลงพวกวิธีพัฒนาตัวเอง อันนี้ตามแล้วมีอะไรให้อ่านฟรีเยอะและดีจำนวนมากครับ
  • The Entrepreneur / Inc. / Fast Company มี 3 เพจสามเจ้า ส่วนใหญ่เน้นเรื่องของการเป็นผู้ประกอบการ อันแรกกับอันสองหนักเรื่องวิธีพัฒนาตัวเอง (อ่านฟรีและสำหรับคนที่สนใจเรื่องการพัฒนาตัวเอง เพจพวกนี้บทความแบบนี้เยอะมากครับ)
  • Business Insider อ่านฟรีครับอันนี้ มีทุกเรื่องให้อ่าน เน้นไปที่ IT / How-to วิธีพัฒนาตัวเองต่าง ๆ เป็นเพจยอดนิยมสมัยก่อนของผมเพจหนึ่งเลยทีเดียว เพราะได้รับความรู้ใหม่ น่าสนใจเสมอ
  • Bloomberg สื่อธุรกิจที่ดังมากของโลก
  • TechCrunch ลงข่าวเกี่ยวกับวงการเทคโนโลยีเป็นหลัก น่าสนใจดี อ่านฟรีด้วยครับ นอกจากนี้ก็มีเพจอื่นที่ผมติดตามอยู่ เช่น Buzzfeed (หนักทางธุรกิจ) Money (หนักการวางแผนการเงิน) Weird (หลากหลาย)
  • BBC Learning English เป็นหน่วยหนึ่งของ BBC ที่สอนภาษาอังกฤษ ดีจนไม่รู้จะดียังไง รักมาก แนะนำครับ
  • Grammarly เน้นเรื่องไวยากรณ์หน่อย มีมุกตลกน่ารัก ๆ
  • Voice of America สื่อของอเมริกาที่อุทิศตัวต่อการสอนภาษาอังกฤษของอเมริกา อ่านฟรีครับ แนะนำ ๆ
  • สุดท้าย คือ พวกสื่อหลักอย่าง BBC / CNN / CNBC 

(4) อื่น ๆ เผื่อใครอยากอ่านหนังสือพิมพ์ประเทศอื่นเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าไทยเราก็ Bangkok Post / The Nation ถ้าฮ่องกงก็ South China Morning ของญี่ปุ่นก็ Japan Today กับ The Japan Times ของสิงคโปร์คือ Strait Times ของออสเตรเลีย คือ The Sydney Morning Herald ของจีน คือ China Daily ของอินเดีย คือ The Times of India

อ่านข่าวภาษาอังกฤษ พวกนี้เยอะ ๆ ไปเรื่อย ฝึกฝนเป็นประจำ อนาคตยังไงผมว่าต้องเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมากแน่ ๆ ครับ : )


แรงบันดาลใจหลักมาจากคลิปนี้ครับ สัมภาษณ์นักข่าวคนไทยจาก Wall Street  และ

แหล่งอ้างอิงฐานความคิดของบทความนี้

https://www.oxford-royale.co.uk/articles/a-guide-to-british-newspapers.html

http://www.anglotopia.net/anglophilia/which-british-newspaper-are-you-a-guide-to-british-newspapers

http://www.onlinecollegecourses.com/2012/12/17/the-best-english-newspapers

https://www.themediabriefing.com/article/youth-audiences-newspaper-old-demographics-advertising

https://letterpile.com/newspapers-magazines/5bmagazines

Comments